Sweetie

Sweetie

 

 

Fiction

Title : Sweetie

Type : Short Fic

Genre : Romance

Rating : PG

Character : Wangjunkai x Wangyuan

Writer : Mint Chocolate Chip

Warning : จักรวาลที่ขยายมาจากเรื่อง Santa Claus is coming to town , You are mine

Warning 2 : นายหน้าบังคับให้เขียนย้อนหลังเนื่องในวันเกิดหวังจวิ้นข่าย

 

 

 

วันที่ 21 กันยายนเป็นวันเกิดของเจ้านายของผมครับ

 

 

ผมไม่รู้ว่าจะหาของขวัญอะไรให้คุณเสี่ยวข่ายดี ลองเข้าเว็บเสิร์ชเอนจิ้นแล้วก็ยังไม่เจอของที่ถูกใจเลย อันที่จริงแล้วเจ้านายผมเคยบอกว่าเขาเลิกสนใจวันเกิดตัวเองตั้งแต่ขึ้นชั้นมัธยมปลายแล้ว เขาบอกว่าการจัดงานวันเกิดและมีเป่าเค้กให้ของขวัญอะไรแบบนี้มันดูเหมาะสำหรับเด็กๆ มากกว่า สำหรับคุณเสี่ยวข่ายที่เติบโตมาจนรับผิดชอบกิจการโฮมสเตย์ของครอบครัวแล้วนั้น งานวันเกิดก็คงเหมือนงานเลี้ยงของวัยเยาว์นั่นเอง

 

 

อีกอย่างถ้าผมเข้าไปถามคุณเสี่ยวข่ายตรงๆ ว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดในปีนี้ เขาก็รู้หมดสิครับว่าผมจะหาอะไรมาให้ ผมค้นพบว่ามนุษย์แท้ชอบอะไรที่เซอร์ไพรส์…แต่ว่าคุณเสี่ยวข่ายจะชอบอะไรที่เซอร์ไพรส์ไหม ผมก็ไม่แน่ใจ ครั้นจะไปถามพนักงานรายวันที่คุณเสี่ยวข่ายว่าจ้างมาช่วยงานผมก็เกรงว่าเขาจะเผลอหลุดปากพูดกับเจ้านายไปว่าผมกำลังเตรียมการอะไรอยู่

 

 

หนึ่งอาทิตย์ก่อนวันเกิดคุณเสี่ยวข่ายจะมาถึง ผมพยายามเก็บรายละเอียดและสังเกตความเป็นไปหรือแนวโน้มความปรารถนาอะไรสักอย่างของเขา แต่ไม่พบอะไรนอกจากจะให้ผมระมัดระวังตนเอง อย่าทำอะไรเกินคำสั่งของเขา และยังให้ผมขึ้นไปพักบนห้องนอนของเขาเหมือนเดิมเวลาที่มีลูกค้าผู้ชายมาพักที่นี่

 

 

“รอย…เดี๋ยวอีกสักพักนายลงมาเฝ้าเคาน์เตอร์หน่อยนะ ฉันต้องออกไปเคลียร์บิลที่ร้านค้าสักหน่อย”

 

 

ผมกะพริบตาเก็บบันทึกภาพคุณเสี่ยวข่ายเกือบทุกอิริยาบถมาตั้งแต่เช้า เจ้านายผมยังคงทำงานหนักด้วยตัวเองโดยไม่ค่อยให้ผมเข้าไปช่วยเหลือ ยกเว้นแต่ว่าเป็นงานที่ไม่ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า คุณเสี่ยวข่ายถึงได้ยอมอนุญาตให้ผมปฏิบัติงานด้วยตนเอง

 

 

“เอ๋? ไม่ใช่ว่าคุณเสี่ยวข่ายจัดการเรียบร้อยไปตั้งแต่ต้นเดือนแล้วหรือครับ?”

 

 

“ใช่ แต่ดูเหมือนยอดเงินในบัญชีมันไม่เท่ากันน่ะ ฉันคิดว่าอาจจะมีบิลล์ที่ชำระค้างไว้อยู่หรือเปล่า”

 

 

“งั้นให้ผมเช็คไหมครับ?” ผมเสนอตัวช่วยอย่างเต็มใจ อันที่จริงมนุษย์มือถือรุ่นผมนี่ถูกสร้างเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางธุรกิจแก่ผู้ใช้ด้วยซ้ำไป ผมออกจะไม่เข้าใจนักว่าทำไมคุณเสี่ยวข่ายถึงไม่ยอมใช้งานผมให้เต็มที่ตามฟังก์ชั่นที่มีติดตัวผมมา

 

 

“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันไปแป้บเดียว…อ้อ ถ้ามีลูกค้าโทรมาขอจองห้องถ้าเป็นเสียงผู้ชายบอกว่าเต็มแล้วนะ”

 

 

“รับทราบครับ ยืนยันคำสั่ง”

 

 

“โอเค ยืนยันคำสั่ง”

 

 

“แล้วถ้าเป็นลูกค้าผู้หญิงล่ะครับ ให้รับจองไหม?”

 

 

“อันนี้ได้”

 

 

“รับทราบครับ”

 

 

ผมมองตามร่างสูงของคุณเสี่ยวข่ายไปจนลับตาพร้อมกับเก็บภาพไว้จนเต็มโฟลเดอร์…จนป่านนี้ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าควรจะหาของขวัญอะไรให้กับเขาดี ปัญญาประดิษฐ์อย่างผมจะว่าฉลาดก็ฉลาด เรามีพัฒนาการก็จริง แต่เราก็เหมือนเด็กน้อยที่ต้องเรียนรู้โลกไปพร้อมๆ กับรับอำนวยความสะดวกให้กับเจ้านาย ผมเคยเจอมนุษย์มือถือตัวอื่นๆ เวลาออกไปข้างนอก แต่เราไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน โลกของเรามีแต่เจ้านายของตนเองเท่านั้น

 

 

เป็นอีกครั้งที่ผมลองเสิร์ชดูว่าพอมีอะไรบ้างไหมที่สร้างความประทับใจให้มนุษย์ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นของขวัญ ในเมื่อผมหาของขวัญที่ถูกใจผมไม่ได้ ผมก็ควรเบนหาคำตอบอื่นหรืออะไรก็ได้ที่ใกล้เคียงกัน ในเมื่อวัตถุดิบที่มีคือเมมโมรี่ของผมมีรูปภาพของคุณเสี่ยวข่ายนับพันรูป…ถ้าเป็นรูปถ่ายจะสามารถนำเอามันมาใช้ประโยชน์สร้างความประทับใจได้ ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นของขวัญที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของที่จับต้องได้ก็ได้

 

 

และแล้วไอเดียของผมก็บังเกิดจากการไปเห็นโพสต์หลายๆ โพสต์ในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศขณะนี้ ผมจึงรีบเดินไปที่ปริ้นเตอร์เพื่อเช็คดูว่ากล่องหมึกมีสีมากพอที่จะให้ผมทำสำเร็จหรือเปล่า เมื่อแน่ใจว่ามันทำได้ผมก็จัดการเสียบสายต่อเข้ากับเครื่องปริ้นเตอร์ แล้วจัดการปริ้นท์รูปออกมาจากเมมโมรี่ของนับหลายสิบใบ

 

 

ผมหวังว่าคุณเสี่ยวข่ายคงจะไม่กลับมาก่อนที่ผมจะทำงานของผมสำเร็จ

 

 

หลังจากที่ปริ้นท์รูปที่ผมเลือกออกมาได้ครบแล้ว ผมรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนของคุณเสี่ยวข่าย ผนังที่ยังว่างเปล่าคือเป้าหมายของผม ผมจึงรีบจัดการแปะรูปเหล่านั้นบนฝาผนังอย่างมีศิลป์โดยใช้เวลาไปแค่สิบนาที แล้วเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิเตือนว่าเครื่องผมร้อนมาก ต้องระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะโอเวอร์ฮีท ผมจึงถอดกางเกงออกเหลือแต่กางเกงสั้นชั้นใน ส่วนเสื้อยืดที่สวมอยู่มันเนื้อบางพอที่จะไม่ต้องถอดออก แล้วรีบลงมาประจำการที่หน้าเคาน์เตอร์

 

 

“แย่แล้ว…แบตเตอรี่ต่ำ” ผมอุทานกับตัวเอง ก่อนที่จะเสียบสายชาร์จเข้ากับปลั๊กไฟ ผมเลือกไม่อยู่ในโหมดสลีปเพราะต้องทำงานเฝ้าหน้าเคาน์เตอร์ เผื่อมีโทรศัพท์ลูกค้าโทรเข้ามาจองที่พัก หรือมีลูกค้าคนไหนกลับเข้ามาที่พัก ผมจะได้ให้บริการได้อย่างรวดเร็วและเต็มที่

 

 

เสียงรถยนต์ดังเข้าในโรงจอดรถ ผมเดาว่าคุณเสี่ยวข่ายคงจะกลับมาแล้ว ปกติผมจะเดินออกไปรับเขาที่หน้าประตู แต่ว่าตอนนี้ติดชาร์จแบตเตอรี่เลยเคลื่อนที่ไปไม่ได้ ผมจึงทำได้แต่พูดต้องรับเจ้านายผมเท่านั้น

 

 

“กลับมาแล้วเหรอครับ คุณเสี่ยวข่าย”

 

 

“อืม ฉันกลับมาแล้…ว…” เสียงของเขาเหมือนจะสะดุดไปพร้อมๆ กับที่เสียงถุงพลาสติกหล่นกระแทกพื้นดังตุ้บ กิริยานิ่งค้างของเจ้านายทำเอาผมแปลกใจมาก

 

 

“รอย!” ดูเหมือนว่าเจ้านายของผมจะตั้งสติได้เมื่อหนึ่งนาทีหลังจากนั้น เขาเดินมาหาผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดดุดัน…นี่ผมทำอะไรผิดอีกแล้วงั้นเหรอ?

 

 

“ทำไมนายแต่งตัวแบบนี้” เขาดุผม ทั้งยังจ้องคาดโทษมาอีก

 

 

“ระบบเตือนว่าเครื่องผมร้อน ต้องระบายอากาศก่อนเครื่องจะโอเวอร์ฮีทครับ” ผมบอกคุณเสี่ยวข่ายไปตามตรง เพราะไม่มีอะไรจะต้องปิดบังกัน มนุษย์มือถืออย่างเราซื่อสัตย์ต่อเจ้านายเสมอครับ

 

 

“แล้วนาย…นาย ใส่ขาสั้นเดินไปเดินมา มีใครเห็นหรือเปล่า?” เขาถามเสียงดุมาอีก ผมเองก็ชักจะน้ำตาคลอ ปกติคุณเสี่ยวข่ายชอบทำหน้าดุอยู่แล้ว ถ้ามันเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับผมโดยตรง

 

 

“ไม่มีครับ” พอผมตอบอย่างนี้ สีหน้าของเจ้านายดูเหมือนจะปลอดโปร่งอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ

 

 

“ทีหลังนายห้ามนุ่งสั้นแบบนี้อีกนะรอย”

 

 

“รับทราบครับ ยืนยันคำสั่ง”

 

 

“ยืนยันคำสั่ง” เมื่อคุณเสี่ยวข่ายสีหน้าดีขึ้นแล้ว เขาบอกให้ผมขึ้นไปชาร์จแบตเตอรี่ที่ห้องนอนของเขาจนกว่าจะเต็มและอุณหภูมิของเครื่องเย็นค่อยลงมาชั้นล่าง ซึ่งก็ดีแล้ว ผมจะได้มีเวลาตกแต่งของขวัญให้คุณเสี่ยวข่ายเพิ่มเติม

.

.

.

.

ปกติแล้วประมาณเที่ยงคืนคุณเสี่ยวข่ายจะขึ้นมานอนหลับพักผ่อน ผมจ้องประตูสลับกับนาฬิกาว่าเมื่อไหร่เจ้านายของผมจะขึ้นมาสักที หลังจากที่ผมชาร์จแบตเตอรี่เต็มและเครื่องหายร้อนแล้ว คุณเสี่ยวข่ายขึ้นมาบอกว่าผมไม่ต้องลงมาทำงานที่ชั้นล่างอีก ผมไม่ต้องถามก็รู้ได้ทันทีว่าบรรดาลูกค้าชายกลับมาจากไปเที่ยวมาพักผ่อนแล้ว ผมก็เลยได้แต่นั่งๆ นอนๆ ดูหนัง ฟังเพลง หาบทความในอินเทอร์เน็ตมาอ่านรอเวลา

 

 

ขณะนี้เข็มนาฬิกาได้ล่วงผ่านเข้าสู่วันที่ 21 ไปแล้ว เข็มยาวชี้ที่เลขสิบพอดีตอนที่คุณเสี่ยวข่ายเปิดประตูเข้ามา

 

 

“เซอร์ไพรส์!” ผมร้องออกมาทันทีเมื่อเจ้านายของผมเปิดสวิตซ์ไฟ โคมสว่างมากพอที่จะเผยผนังด้านหนึ่งที่มีรูปถ่ายของคุณเสี่ยวข่ายในอิริยาบถต่างๆ ที่ผมแอบถ่ายเก็บไว้แล้วนำมันมาเรียงร้อยเป็นรูปหัวใจ ดูเหมือนว่าเขาจะอึ้งไปนาน หยุดยืนอยู่ที่ประตูเหมือนเจออะไรแปลกประหลาดเข้าให้

 

 

“สุขสันต์วันเกิดครับ คุณเสี่ยวข่าย”

 

 

“รอย…นี่นายทำเองเหรอ?” เขาเดินเข้ามาในห้องเหมือนเท้าไม่ติดพื้น สีหน้าดีใจที่ปรากฏขึ้นบนดวงหน้าของเจ้านายทำเอาผมรู้สึกปลาบปลื้มไม่น้อย

 

 

“ใช่ครับ ผมแอบใช้ปริ้นเตอร์ ปริ้นท์รูปภาพคุณเสี่ยวข่ายจนหมึกหมด…” ผมยิ้มอายๆ ตอนที่บอกกับเขา “…แต่พรุ่งนี้ผมจะสั่งซื้อให้เขาส่งมาให้ใหม่นะครับ”

 

 

คุณเสี่ยวข่ายมองภาพที่ติดบนผนังด้วยความสนใจ รอยยิ้มน้อยๆ ผลิอยู่บนริมฝีปากบางเฉียบ จากนั้นเขาก็หันมามองผมด้วยแววตาฉ่ำหวานกว่าปกติ

 

 

“ขอบใจนะ รอย…ฉันเพิ่งรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มุมมองของนายที่มีต่อฉันมันเป็นแบบนี้นี่เอง”

 

 

“แน่ล่ะสิครับ ผมแอบเก็บรูปตั้งหนึ่งอาทิตย์โดยไม่ให้คุณเสี่ยวข่ายรู้” รอยยิ้มหวานปนกรุ่มกริ่มฉายชัดอยู่บนดวงหน้าของเขาจนผมอดไม่ได้ที่จะกะพริบตา บันทึกภาพนั้นเอาไว้อีกสักรูปสองรูป แล้วแขนข้างหนึ่งก็โอบรัดรอบร่างของผมเหมือนวันนั้น

 

 

“แล้วถ้าอย่างนั้น นายอยากรู้ความในใจตอนนี้ฉันบ้างหรือยัง?”

 

 

คุณเสี่ยวข่ายไม่รอให้ผมตอบ เขาโน้มใบหน้าลงมาจนชิดแล้วผมก็หลับตาลง ให้ประสาทสัมผัสอื่นได้ทำหน้าที่แทนดวงตาซึ่งเป็นเลนส์กล้องความละเอียดสูง

 

 

อืม…ผมว่า ผมรู้ความในใจของคุณเสี่ยวข่ายแล้วล่ะ ^^

 

 

 

 

END

 

 

3 thoughts on “Sweetie

  1. โฮ น่ารักมากกกค่ะ รอยโฟนกับเสี่ยวข่ายขี้หึง มีแถมตอนตะหนูใส่กางเกงขาสั้นด้วยนะคะ (ลูกอย่าทำบ่อยนะคะ เดี๋ยวพ่อเสี่ยวข่ายแกจะหัวใจวายไปก่อน)

    ขอบคุณไรท์ที่เขียนเรื่องนี้ต่อนะคะ เป็นคู่ที่น่ารักที่สุด ❤️☺️👍 ขอบคุณค่ะ 🙏☺️

    Like

  2. ถ้าเกิดมีคนไหนเห็นขาอ่อนหนูรอยของคุณเสี่ยวข่าย คงซี้แหงแซะ หวงเบอร์แรงมากค่ะ
    เปลี่ยนเป็นโฮมสเตย์รับแต่ผญ.ไปเลยค่ะคุณเสั่ยวข่าย😂😂😂😂

    ตอนหนูรอยน้ำตาคลอนี่แบบช้ำแทนมาก แค่คิดก็อยากจะกอดปลอบ #โดนเตะ

    ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะ น่ารักมาก 😍 อยากจะมุดเข้าไปจองห้องพัก😂

    Like

  3. แบบนี้เสี่ยวข่ายไม่มีทางพ้นรอยโฟนไปได้ตลอดชีวิตแน่ๆ เลย >///<

    Like

Leave a comment